ช่วยสาวประหยัดเงิน เก็บเครื่องสำอางดีใช้ได้นา |
ข้อมูลน่าสนใจใกล้ตัวคุณผู้หญิง เป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับความสวยความงามและผลิตภัณฑ์ช่วยประทินโฉม ที่ผู้หญิงทั่วไปต้องใช้เป็นประจำทุกวัน โดย เคธี คอนนอลลี่ คอมลัมนิสต์ นิวส์วีค นิตยสารชั้นนำของสหรัฐ เนื้อหาของคอนนอลลี่ใช้ชื่อเรื่องว่า "8 วิธีช่วยสาวมั่นใจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสะอาดใช้ได้ดี" เป็นการรวบรวมวิธีช่วยสาวไทยทั้งในและต่างประเทศ ไม่ต้องเผชิญกับผลเสียที่ตามมา จากการใช้หรือเก็บรักษาเครื่องสำอางกับผลิตภัณฑ์ประทินโฉมไม่ดี จนใช้ได้ไม่คุ้มและใช้ได้ไม่นานกับเม็ดเงินที่ต้องจ่ายไป และต้องเสียเงินซื้อหาของใหม่มาใช้แทน @"ไม่ใช้ร่วมหรือแบ่งใช้" เป็นหนทางเข้มงวดและกฎเหล็กข้อแรกว่า การใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ประทินโฉมร่วมกับคนอื่น แม้จะเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหาย หรือเป็นลูกค้าสนใจรายอื่นที่ร่วมใช้สินค้าทดลองก็ตาม เพราะการใช้ของร่วมกันเป็นหนทางง่ายที่สุดหนทางหนึ่ง ที่จะทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย สาวใดที่ไม่สนใจคำแนะนำหรือคำเตือนข้อนี้ ระวังเถอะว่าคุณอาจติดโรคจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคที่คนไทยรู้จักกันว่า "สังคัง" ซึ่งนำไปสู่อาการระคายเคือง เจ็บและอักเสบของผิวหนัง กลายเป็นผิวที่ไม่น่ามอง และอาการเกิดขึ้นง่ายบริเวณริมฝีปาก หากใช้ลิปสติกเสื่อมคุณภาพหรือใช้ร่วมกันกับคนอื่นๆ ที่อาจมีเชื้อไวรัสก่อโรคซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางร่วมกัน ยังเพิ่มโอกาสกับความเสี่ยง ที่สาวๆ จะเกิดโรคริมฝีปากอักเสบ ควบคู่ไปกับโรคผิวหนังรอบปากอักเสบด้วย ผลิตภัณฑ์ใช้กับดวงตาและรอบดวงตา เป็นอีกส่วนพึงระวัง การใช้มาสคาร่าหรือผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาร่วมกับคนอื่น อาจทำให้เกิดโรคเยื่อตาขาวอักเสบ หรือโรคตาแดง และขั้นร้ายสุดคือมีไรเกาะขนตา หากสาวใดต้องการลองใช้เครื่องสำอางตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ขอให้แน่ใจเสียก่อนว่า ต้องเป็นสินค้าทดลองใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หรือหากต้องใช้อุปกรณ์กับผลิตภัณฑ์ร่วมกับคนอื่น ลองขอให้พนักงานช่วยทำความสะอาด หรือใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคให้ดี ก่อนจะนำมาใช้จริงบนใบหน้าตนเอง @"ทิ้งเครื่องสำอางเก่าไม่ใช้แล้ว" สาวไหนที่มีผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางเก่า หรือผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางใช้ไปแค่ครึ่งเดียวแต่ทิ้งไว้นานแล้ว อย่าคิดเสียดายให้ทิ้งทันที เพราะอายุผลิตภัณฑ์ยิ่งนาน สารที่ใช้ป้องกันการเสื่อมสภาพก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพน้อยลง ตามปกติแล้วผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอาง ควรเก็บไว้ในสถานที่เย็น ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ไม่ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานเปลี่ยนแปลงไป ดร.บาวเวอร์สเตือนว่าการเก็บรักษาปล่อยเครื่องสำอางทิ้งไว้ในรถยนต์โดยเฉพาะในฤดูร้อน อาจเป็นสาเหตุทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมคุณภาพได้เร็วขึ้น @"หมั่นเปลี่ยนอุปกรณ์ใช้ทาผิว" ขอให้จดจำไว้เสมอต้องขยันเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้หรือเกี่ยวข้องกับดวงตาบ่อยครั้ง และยิ่งถ้าตามีอาการแย่หรือติดเชื้ออยู่ขอให้หยุดใช้ก่อน และให้สงสัยก่อนเลยว่า อุปกรณ์ที่ใช้เกี่ยวข้องกับดวงตาอาจมีเชื้อแบคทีเรียอยู่ และมีโอกาสที่จะติดเชื้อที่ดวงตาจากความไม่รู้ของตนเองได้ ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลกับคอนนอลลี่ ช่วยเตือนสาวๆ ว่าควรใช้อุปกรณ์แบบทาอย่างก้านสำลี แปรงปัดหรือฟองน้ำ แทนที่จะใช้นิ้วมือ เพื่อสดความเสี่ยงทำให้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางปนเปื้อนเชื้อโรคที่มาจากเชื้อแบคทีเรียตามผิวหนัง ซึ่ง ดร.บาวเวอร์สแนะนำให้ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนฟองน้ำสัปดาห์ละครั้ง "ทุกๆ ครั้งที่สาวๆ ใช้ฟองน้ำ จะทำให้เซลล์ผิวหนังตายแล้วติดอยู่ และกลายเป็นแหล่งทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโต ด้วยเหตุนี้ทำให้สาวๆ กลายเป็นสาวใบหน้าเต็มไปด้วยสิวได้ ดังนั้นควรขยันล้างทำความสะอาดแปรงปัดแก้มเดือนละครั้ง ทำความสะอาดขจัดความมันกับแบคทีเรียออกจากแปรง และใช้สบู่อ่อนหรือแชมพูเด็กทำความสะอาด" @"ไม่ใช้น้ำหรือน้ำลายกับอุปกรณ์" ผู้หญิงหลายคนชอบอาศัยน้ำลาย ทำให้อุปกรณ์เสริมสวยเปียกก่อนใช้กับผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอาง ซึ่งวิธีนี้ไม่น่าจะส่งผลเสียหรืออันตรายได้ แต่คอนนอลลี่ได้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญมาเตือนสาวๆ ว่า อย่าคิดทำและต้องไม่ทำเช่นนี้ เพราะภายในปากคนเราเต็มไปด้วยแบคทีเรียนานาชนิด ซึ่งไม่เป็นอันตรายหรือส่งผลเสียต่อปาก แต่แบคทีเรียเหล่านี้กลับไม่ดีต่อดวงตาของคนเรา ยิ่งใช้น้ำแทนน้ำลายก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น ในเมื่อน้ำสามารถทำให้สารใช้กันเสียของผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางนั้นๆ เสื่อมคุณภาพลงได้ และเป็นตัวนำเชื้อโรคหรือจุลชีพให้เติบโตอาศัยอยู่ในเครื่องสำอางได้ จนกลายเป็นสาเหตุของการอักเสบติดเชื้อผิวหนัง @ “อย่าใช้ในรถยนต์” เวลาที่ผู้หญิงทั่วไปขับรถไปด้วย และแต่งหน้าในรถยนต์ ทำให้เขาค่อนข้างกังวลใจ ด้วยความคิดอยากเตือนให้ระวังดวงตา ซึ่งเป็นอวัยวะเปราะบาง และรักษาดูแลไม่ได้ง่ายๆ ความประมาทเลินเล่ออาจทำให้สาวเผลอใช้แปรงปัดตาถูกกระจกหรือนัยน์ตาเป็นแผลถลอก ในกรณีข้างต้นดวงตาจึงอ่อนไหวต่อการติดเชื้อขั้นรุนแรง รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียสเตฟฟีโลคอกคัส ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายแบบถาวร หรืออาจทำให้ตาบอดได้ ไบลีย์เห็นด้วยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ยาก แต่ที่ผ่านมาอันตรายในลักษณะนี้เคยมีหรือปรากฏมาแล้ว @"ปิดฝาผลิตภัณฑ์ให้แน่น" ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางส่วนใหญ่มีส่วนผสมของสารกันเสีย ที่ช่วยขจัดแบคทีเรียและช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นเปิดทิ้งรับสภาพอากาศภายนอก ผลิตภัณฑ์จะเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคประเภทจุลชีพ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของสารกันเสียลดลง การเปิดฝาบรรจุผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอาง ยังเสี่ยงต่อการเปิดรับแบคทีเรีย ซึ่งสารกันเสียที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นไม่สามารถขจัดหรือป้องกันได้ ยิ่งฝาปิดของผลิตภัณฑ์นั้นเปิดไว้นานเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้มีเชื้อโรคมากมายหลายชนิดสามารถเข้าไปอาศัยอยู่ได้มากเท่านั้น ดังนั้นไบลีย์ย้ำว่าสาวต้องไม่ลืมที่จะปิดฝาบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ ให้แน่น @"ระวังเมื่อผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ" ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางนั้นๆ ใช้ส่วนผสมเป็นธรรมชาติปราศจากสารเคมี และดีเหมาะกับสภาพผิวของสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย อาจดีสำหรับสาวที่ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางที่มีสารเคมีมากเกินไป แต่ผลเสียจากข้อดีนี้มีอยู่ "สาวๆ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์เหมาะสมกับผู้หญิงที่มีผิวแพ้ง่าย บางครั้งคิดว่าตนเองปลอดภัยกว่าสาวๆ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางทั่วไป แต่ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ได้ใส่สารขจัดหรือป้องกันเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งใส่เอาไว้ในผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ทั่วไปใช้กัน" @"ชำระล้างผิวสะอาดที่สุดก่อนนอน" ก่อนที่สาวๆ จะเข้านอน อย่าขี้เกียจหรือละเลยทำความสะอาดผิวหนัง โดยเฉพาะใบหน้าและขนตาให้สะอาดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งความสะอาดเหมือนกับช่วยให้อวัยวะของตัวเองได้พักผ่อนเต็มที่ด้วย หากสาวๆ ปล่อยให้มาสคาร่าติดขนตาตลอดคืน มาสคาร่าอาจแห้งและแตกเข้าตา จนกลายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคคันที่ผิวหนังรอบดวงตาและเกิดอาการตาแดงได้ ดังนั้นการเช็ดทำความสะอาดใบหน้าและส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ใช้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางให้หมดจดก่อนนอน ต้องทำเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย |
วิธีช่วยสาวประหยัดเงิน เก็บเครื่องสำอางใช้ได้นาน
กูรูเทศแนะวิธีฉลาดช้อป
กูรูเทศชี้ช่องกลยุทธ์เพิ่มเงินออม
วิธีเลือกทำบัตรเครดิตให้คุ้มค่า
ที่มา : http://www.creditd.com/
กลเม็ดใช้บัตรเครดิตแบบถูกวิธี
1.ใช้บัตรเครดิตกับสิ่งที่มีความจำเป็นเท่านั้น
ปรัชญาของเศรษฐีคนที่ 2 ของโลก
มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศลถึง 31,000 ล้านดอลล่าร์ (เป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,000,000,000,000 อ่านว่า 1 ล้าน ล้านบาท โอ้แม่เจ้า)
ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :
1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
8 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์
10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า : จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง
ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง
มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม1มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน
ที่มา : fwd